…. รู้ไหมว่า การที่ประชาชนได้ยื่นคำขอหรือคำร้องต่าง ๆ ต่อหน่วยงานราชการไม่ว่าจะเป็นการขอข้อมูลข่าวสารของราชการ หรือยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่าง ๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับคำขอหรือคำร้องนั้นแล้ว เอกสารนั้น

ถือเป็น “หนังสือราชการ” ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526

…. เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเก็บรักษาหนังสือรราชการ ดังกล่าวอย่างไร ? … เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติเกี่ยวกับเอกสารราชการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ข้อ 53 ที่กำหนดไว้ว่า “การเก็บหนังสือที่ปฏิบัติยังไม่เสร็จให้อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าของเรื่อง โดยให้กำหนดวิธีการเก็บให้เหมาะสมตามขั้นตอนของการปฏิบัติงาน”

…. ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐดูแลจัดเก็บเอกสารราชการไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ดังกล่าว ทำให้เอกสารราชการหลุดรอดรั่วไหลไปสู่บุคคลภายนอก และก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้เป็นเจ้าของเอกสาร จะถือเป็นการละเมิดอันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือไม่ ?

…. ในเรื่องนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้เคยมีคำวินิจฉัยไว้ว่า… การที่ประชาชนมีหนังสือขอข้อมูลข่าวสารมาถึงหน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นได้รับไว้เป็นหลักฐานทางราชการแล้ว หนังสือของบุคคลดังกล่าวจึงเป็นหนังสือราชการ ซึ่งการเก็บรักษาหนังสือดังกล่าวระหว่างที่ยังปฏิบัติไม่แล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานจะต้องเก็บให้เหมาะสมตามขั้นตอนของการปฏิบัติราชการตามข้อ 53 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 …การที่มีบุคคลภายนอกนำสำเนาหนังสือและบัตรประจำตัวของผู้ที่ยื่นเอกสารไปลงในสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก และก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของเจ้าของเอกสาร จึงเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานละเลยต่อหน้าที่ในการเก็บรักษาเอกสารราชการให้เหมาะสมตามขั้นตอนการปฏิบัติงานจึงเป็นการกระทำละเมิดตามมาตรา 420 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หน่วยงานของรัฐ จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เจ้าของเอกสาร ตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

_______________

คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.879/2561

สำนักประชาสัมพันธ์ ศาลปกครอง

สายด่วนศาลปกครอง โทร. 1355